แม่ชีณัฐวรรณ ตั้งใจสรรสร้างนิทานชาดกเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกศิษย์ทุกเพศทุกวัยเพื่อได้ซึมซับพุทธศาสนา

ยุคสมัยเปลี่ยนไปพระพุทธศาสนาต้องพัฒนาตามเพื่อให้เข้าถึงประชาพุทธศาสนิกชนทุกคน และ เจ้าทันโลกออนไลน์ มูลนิธิโพธิวัณณาสรรค์สร้างนิทานชาดก 10 ทศชาติพระพุทธเจ้า ในรูปแบบ AI ดูได้ทางช่อง YouTube ประจำมูลนิธิโพธิวัณณาซึ่งในนิทานเหล่านี้ได้เล่าถึงเนื้อหาของทศชาติของพระพุทธเจ้าว่าด้วยหลักธรรมคำสอนบารมีทั้ง 10 ทัศที่จะเป็นหลักสำคัญในการดำเนินชีวิตที่จะอยู่รอดในสังคมต่อจากนี้ไป
นับว่ามูลนิธิโพธิวัณณาได้ทำตามวัตถุประสงค์เพื่อรักษาต่อยอดพระพุทธศาสนา ทั้งแนวปฏิบัติได้จริง และแนวความคิด ที่ก้าวทันสังคมที่มีปัญหากระทบจิตใจ
สถานที่ปฏิบัติธรรมของมูลนิธิโพธิวัณณาเป็นแหล่งรวบรวมบุคคลที่ต้องการฝึกจิตฝึกใจเพื่อให้อยู่ในสังคมได้อย่างอยู่รอดปลอดภัย ตามหลักของพระพุทธศาสนาแนวสติปัฏฐาน 4 ที่เน้นเรื่องทานศีลภาวนาเป็นหลักเป็นฐานของชีวิต


แก่นเรื่อง
พระมหาชนก คือพระโพธิสัตว์ที่เกิดเป็นโอรสกษัตริย์ เมื่อถูกกบฏแย่งราชสมบัติ พระองค์ไม่ท้อถอย มุ่งมั่นเดินทางทางเรือเพื่อไปค้าขาย แต่เกิดพายุใหญ่ เรือแตก พระองค์ว่ายน้ำในทะเลถึง ๗ วัน ๗ คืน โดยไม่ยอมแพ้ สุดท้ายเทวดามาช่วย และได้กลับมาครองราชย์ ต่อมาออกบวช บำเพ็ญบารมีเพื่อมรรคผล
—
ธรรมะที่ได้จากเรื่องนี้
1. วิริยบารมี (ความเพียร)
พระมหาชนกไม่ยอมแพ้ต่อความยากลำบาก แม้ต้องว่ายน้ำกลางทะเลถึงเจ็ดวันก็ไม่ท้อถอย
เป็นแบบอย่างของความเพียรพยายามไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค
2. อธิษฐานบารมี (ความตั้งใจแน่วแน่)
พระองค์มีเป้าหมายชัดเจน ไม่ว่าจะเจอภัยใด ก็ไม่สั่นคลอนความตั้งใจ
แสดงให้เห็นว่า หากใจแน่วแน่แล้ว ย่อมก้าวข้ามวิกฤตไปได้
3. สติและปัญญา
ในยามวิกฤต พระมหาชนกไม่ตื่นตระหนก แต่ดำรงสติและใช้ปัญญานำทาง
สอนให้รู้ว่า การแก้ปัญหาต้องอาศัยทั้งความเพียรและสติปัญญาประกอบกัน
4. ความไม่ย่อท้อต่อกรรมเก่า
แม้จะเผชิญผลกรรมจากอดีต พระองค์ก็มิได้โทษใคร แต่เลือกจะต่อสู้ด้วยความเพียร
5. อุดมการณ์แห่งพระโพธิสัตว์
พระมหาชนกเป็นแบบอย่างของผู้สร้างบารมีเพื่อประโยชน์เกื้อกูล ไม่ใช่เพื่อตนเองเท่านั้น
—
สาระสรุปสั้น ๆ
เพียรไม่ท้อ อดทนไม่ย่อ
ความตั้งใจแน่วแน่นำพาชีวิตให้รอดพ้นอุปสรรค
สติและปัญญาคือคู่ชีวิตที่แท้จริง
พระเตมีย์ ชาดก
แก่นเรื่อง
พระเตมีย์ คือพระโพธิสัตว์ที่เกิดเป็นโอรสกษัตริย์ พระองค์ทรงเห็นโทษของความเป็นกษัตริย์ที่ต้องเบียดเบียนผู้อื่น ทำสงคราม และตัดสินโทษคน จึงแสร้งทำเป็นคนใบ้จนกว่าจะพ้นจากตำแหน่งกษัตริย์ สุดท้ายได้ออกบวช บำเพ็ญเพียรทางธรรม
ธรรมะที่ได้สอนสังคมเราจากเรื่องนี้
1. เห็นโทษของอำนาจและยศศักดิ์
ความเป็นกษัตริย์หรือผู้มีอำนาจสูงย่อมนำมาซึ่งการทำบาป เช่น ฆ่าสัตว์ ตัดสินโทษประหาร ทำสงคราม
พระเตมีย์เลือกทางที่ไม่เบียดเบียน แม้ต้องถูกเข้าใจผิดว่าเป็น “ใบ้” ก็ยอม
2. สละโลกเพื่อธรรม
พระเตมีย์แสดงให้เห็นว่า ความสุขที่แท้จริงไม่ได้อยู่ในอำนาจและสมบัติ แต่คือการดำเนินชีวิตที่ไม่เบียดเบียนและมุ่งไปสู่การหลุดพ้น
3. ขันติบารมี (ความอดทน)
การแสร้งเป็นใบ้ถึง 16 ปี ต้องอดทนต่อการถูกดูหมิ่น ถูกเข้าใจผิด แต่พระองค์ก็ไม่หวั่นไหว
แสดงถึงความแน่วแน่ในอุดมการณ์ ไม่ปล่อยให้กิเลสมาล่อลวง
4. ปัญญาในการเลือกทางชีวิต
พระเตมีย์มองเห็นอนาคต ว่าแม้จะได้อำนาจก็ต้องสร้างกรรมหนัก จึงตัดสินใจหลีกเลี่ยงตั้งแต่แรก
เป็นแบบอย่างในการใช้ปัญญาพิจารณาผลแห่งกรรมก่อนตัดสินใจทำสิ่งใด
5. อุดมการณ์แห่งพระโพธิสัตว์
การกระทำของพระเตมีย์ไม่ใช่เพื่อตนเองอย่างเดียว แต่เป็นการสั่งสมบารมีเพื่อบรรลุพระโพธิญาณในอนาคต
สาระสรุปสั้น ๆ
อำนาจไม่ใช่ความสุขแท้จริง
การไม่เบียดเบียนคือทางอันประเสริฐ
ขันติและปัญญา คือบารมีสำคัญของผู้ใฝ่ธรรม